ขณะนี้มีผู้เข้าชม

เรามี 4 บุคคลทั่วไป ออนไลน์

ผู้ค้ำประกันหนี้เช่าซื้อรถยนต์แต่ผู้เช่าซื้อผ่อนไม่ไหวทำอย่างไร


ผู้ค้ำประกันหนี้เช่าซื้อรถยนต์แต่ผู้เช่าซื้อผ่อนไม่ไหวทำอย่างไร
เมื่อผู้เช่าซื้อไม่ชำระค่างวดรถยนต์ ไฟแนนท์ย่อมมีอำนาจยึดรถเมื่อค้างชำระเกิน 3 งวด หากยึดรถได้ก็เป็นเรื่องที่ดีมาก ส่วนมากจะไม่ยอมให้ยึดซึ่งนั่นเป็นวิธีการที่ถูกต้องแต่อาจไม่ถูกกฎหมายนัก  แต่สำหรับผู้ค้ำประกันคงไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไร เนื่องจากหากยึดรถได้ไฟแนนท์จะนำรถไปออกขายทอดตลาดเมื่อได้ราคามาเท่าใดต้องนำมารวมกับยอดเงินที่ผ่อนมาแล้วและหักจากยอดเช่าซื้อที่ค้างชำระ ซึ่งส่วนมากจะขาดอยู่  โดยในส่วนที่ขาดอยู่นี่แหละที่ไฟแนนท์จะฟ้องเรียกคืนโดยรวมค่าติดตาม ค่าธรรมเนียมการขาย ดอกเบี้ยผลประโยชน์เช่าซื้อรวมกันมาเบ็ดเสร็จ  เราในฐานะผู้ค้ำประกันจะทำอย่างไร  หากเป็นช่วงผ่อนชำระผู้ค้ำประกันต้องเร่งรัดผู้เช่าซื้อไม่ให้ค้างชำระและทำให้ผู้ค้ำประกันเดือนร้อน หรือเร่งรัดให้ผู้เช่าซื้อโอนสิทธิ์ในสัญญาเช่าซื้อให้กับบุคคลอื่นโดยเปลี่ยนสัญญากับไฟแนนท์ด้วย กรณีดังกล่าวมักมีปัญหาเกิดขึ้นจากกรณีโอนสิทธิ์การผ่อนชำระให้คนอื่นโดยลำพังหรือที่เรียกกันว่า “ขายดาวน์” และส่งมอบรถให้ไป กรณีดังกล่าวเป็นช่องทางของนักโจรกรรมรถนับหลายร้อยคันและมีการกระทำการเป็นกระบวนการ โดยหลอกให้เงินเพียง 10,000 บาท และจะผ่อนต่อเอง ซึ่งผู้เช่าซื้อก็บอกว่ารับภาระผ่อนไม่ไหวคิดว่าเรื่องจะจบ แต่กลับกลายเป็นว่าแกงค์ขโมยรถได้รถไปโดยเสียเงินเพียง 10,000 บาท แต่สามารถนำรถไปขายต่อได้หลายแสนบาททีเดียว ไฟแนนท์ก็ติดตามทวงหนี้ผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำประกันอีกเพราะยังเป็นคู่สัญญาโดยตรงไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงสัญญาเป็นผู้เช่าซื้อรายใหม่หรือผู้ค้ำประกันรายใดด้วย เพราะฉะนั้นผ่อนไม่ไหวต้องมีการเปลี่ยนแปลงสัญญากับไฟแนนท์ด้วย และหากผู้เช่าซื้อผ่อนไม่ไหวจริงผู้ค้ำประกันควรแอบบอกเบาะแสที่อยู่ของรถให้ไฟแนนท์ทราบเพื่อเป็นช่องทางเอารถคืนมิเช่นนั้นแล้วยอดหนี้เช่าซื้อจะมีเต็มจำนวน การได้รถคืนทำให้ยอดหนี้เช่าซื้อลดลงหรือเป็นศูนย์ได้ขึ้นอยู่กับว่าผู้เช่าซื้อได้ผ่อนชำระมาแล้วเพียงไร