เมื่อถูกฟ้องคดีแพ่งควรปฏิบัติตนอย่างไร

         เมื่อเป็นหนี้กันเกิดขึ้นแล้วมีการผิดสัญญา หรือมีการกระทำละเมิดเกิดขึ้น เช่น รถชน หมากัด หรือทำความเสียหายแก่ทรัพยสิน  ผู้ที่ได้รับความเสียหายหรือผลกระทบย่อมมีสิทธิยื่นฟ้องคดีต่อศาล โดยเกิดจากการโต้แย้งสิทธิของบุคคลหรือมีความจำเป็นต้องใช้สิทธิทางศาลตามที่กฎหมายกำหนด และเมื่อถูกฟ้องไม่ต้องตกใจหรือตื่นตระหนก  แต่ให้ตั้งสติให้ดีทุกอย่างมีทางแก้ไขได้เสมอ โดยขั้นแรกต้องพิจารณาก่อนว่าเอกสารที่ได้รับคือเอกสารประเภทใด  ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากการอ่านเอกสารนั้นๆ เช่น หนังสือบอกกล่าวทวงถามขอให้ชำระหนี้  หมายศาล สำเนาคำฟ้อง หรือคำร้องขอต่างๆ ซึ่งการส่งหมายส่วนมากจะมีพนักงานเดินหมายเป็นเจ้าหน้าที่ของศาลมาส่งตามที่อยู่ที่ปรากฎในทะเบียนบ้าน และมักส่งในวันหยุดที่เจ้าหน้าที่หยุดงานมาส่งให้  โดยเราห้ามรับหมายเด็ดขาดแต่ให้เจ้าหน้าที่ศาลปิดหมายไว้ที่หน้าบ้านแทน ซึ่งการรับหมายหรือรับแทนกับการปิดหมายมีผลแตกต่างกันในทางกฎหมายเกี่ยวกับระยะเวลาในการยื่นคำให้การต่อสู้คดีในกรณีที่เป็นคดีประเภทคดีแพ่งสามัญ  และการไม่รับหมายก็ไม่มีความผิดแต่อย่างใด  เพราะศาลมักจะสั่งให้ปิดหมายไว้อยู่แล้วเมื่อไม่พบจำเลย หรือไม่มีผู้ใดรับแทน หรือยอมรับหมายแทน   เมื่อเจ้าหน้าที่ปิดหมายเสร็จค่อยนำเอกสานนั้นมาดูว่าเป็นเอกสารหรือหมายศาลประเภทอะไร ใครเป็นโจทก์ ใครเป็นจำเลย ถูกฟ้องเรื่องอะไร และให้รีบติดต่อทนายความในทันที  เนื่องจากการดำเนินคดีในแต่ละขั้นตอนจะมีระยะเวลากำกับไว้ทุกกระบวนการ  หากปล่อยเนินช้าไปจนเกินเวลาจะทำให้เสียสิทธิในการต่อสู้คดีเพื่อหักล้างพยานโจทก์และนำมาซึ่งการแพ้คดีและถูกยึดทรัพย์สินออกขายทอดตลาดชำระหนี้หรือบังคับตามคำพิพากษา