ขณะนี้มีผู้เข้าชม

เรามี 7 บุคคลทั่วไป ออนไลน์

การขับรถชนท้ายรถคันอื่นหรือชนคนต้องรับผิดเสมอไปหรือไม่

               การขับขี่รถโดยประมาทอันจะมีโทษทางอาญาและทางแพ่งหรือไม่นั้น  ประเด็นที่ต้องพิจารณามีว่าการกระทำดังกล่าวเกิดแต่ความประมาทเลินเล่อของฝ่ายใดยิ่งหย่อนกว่ากันเพียงไร  แต่คนทั่วไปมักคิดกันว่าการชนท้ายรถคันอื่นหรือชนบุคคลอื่นต้องเป็นความผิดเสมอไป ซึ่งหลักการความผิดดังกล่าวไม่ใช่สิ่งที่ยืนยันความผิดเช่นนั้นเสมอไป แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายประมาททำให้เกิดความเสียหายมากกว่ากัน โดยบทความนี้เขียนขึ้นจากเรื่องจริงที่มีผู้โทรศัพท์มาสอบถามเนื่องจากเกิดเหตุชนท้ายรถคันอื่นที่เบรคกระทันหันเพราะเกรงว่าจะชนรถคันแรกที่เลี้ยวโดยไม่เปิดไฟเลี้ยวและกระทันหัน จึงเบรคไม่ทันและชนท้ายรถคันที่เบรคคันที่สอง รถคันที่สองแจ้งว่าคันที่สามชนท้ายต้องรับผิดเพราะมาชนท้าย  ซึ่งการชนท้ายดังกล่าวเกิดจากรถคันที่สองเบรคกระทันหันในทันทีเพราะฉะนั้นเป็นการชนเพราะเหตุสุดวิสัยและเกิดจากความผิดของรถคันข้างหน้าที่หยุดรถกระทันหัน เพราะฉะนั้นรถชนท้ายเมื่อวิ่งมาความเร็วปกติ และระยะห่างปกติไม่ได้มีความประมาทเลินเล่อจึงไม่ควรต้องรับผิดใดๆ แต่รถคันที่เบรคเองกลับต้องมารับผิดชดใช้ให้กับเราแทนด้วย หรือกรณีคนวิ่งตัดหน้ารถก็พิจารณาได้ในประเด็นเดียวกันว่าใครประมาทมากกว่ากัน  ในทางปฏิบัติตำรวจจะสรุปเหตุการประมาทหากเราไม่เห็นด้วยก็ไม่ควรต้องรับสารภาพหรือลงชื่อรับทราบการตั้งข้อหาแต่อย่างใดเพราะจะมีผลทำให้ท่านถูกฟ้องคดีอาญาข้อหาประมาทหรือต้องรับผิดเพราะท่านเองไปยอมรับว่าเป็นการกระทำโดยประมาทเสียเอง  การจะมากล่าวอ้างในภายหลังย่อมเป็นการลำบาก  และจะมีการฟ้องร้องคดีแพ่งเรียกร้องค่าเสียหายตามมาอีกครั้งหนึ่งหรือผู้เสียหายจะยื่นคำร้องเรียกค่าเสียหายมาในคดีที่อัยการฟ้องต่างหากอีกด้วย  ดังนั้นการเซ็นต์เอกสารใดๆ หรือการให้การรับสารภาพใดๆ ท่านต้องปรึกษานักกฎหมายก่อนเสมอเพื่อไม่ให้ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายหรือต้องถูกจองจำในเรือนจำต่อไป  By www.siaminterlegal.com