ขณะนี้มีผู้เข้าชม

เรามี 2 บุคคลทั่วไป ออนไลน์

ความรู้เกี่ยวกับหนี้บัตรเครดิต และสินเชื่อเงินสดต่างๆ

                    ปัจจุบันคดีเกี่ยวกับหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อเงินสดต่างๆ จำนวนมาก ซึ่งหนี้เครดิตก็คือการกู้ยืมเงินนั่นเอง โดยเมื่อผิดนัดชำระหนี้แล้วก็จะเกิดดอกเบี้ยผิดนัด ค่าติดตามทวงถาม และค่าใช้จ่ายต่างๆ นานา และมีผู้โทรศัพท์สอบถามจำนวนมากจึงขออธิบายหลักการให้ท่านผู้สนใจทราบดังนี้ เมื่อเป็นหนี้แล้วเราต้องยอมรับว่ามีหนี้ก็คงต้องชำระเพียงแต่อัตราที่ชำระจะเป็นยอดใดเท่านั้น แต่ในทางปฏิบัติผู้ประกอบการมักจะเรียกร้องค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมเข้าด้วย เช่น ดอกเบี้ยผิดนัด ค่าติดตามทวงถามต่างๆนาๆ เมื่อรวมต้นเงินแล้วเป็นสัดส่วนที่สูงเกินสมควร ท้ายที่สุดเมื่อไม่ชำระก็ต้องฟ้อง การฟ้องคดีลักษณะดังกล่าวเรียกว่าคดีผู้บริโภคซึ่งต้องฟ้องยังศาลที่ลูกหนี้มีภูมิลำเนาทะเบียนบ้านอยู่เท่านั้น เมื่อตกเป็นหนี้แล้วท่านควรเจรจาชำระหนี้ในยอดที่เหมาะสมจะผ่อนอย่างไร อัตราเท่าใด หรือลักษณะอย่างใดต้องเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อไม่ต้องถูกดำเนินคดีและเสียประวัติหากคิดจะทำธุรกรรมทางการเงินในอนาคต  ส่วนการเจรจาต้องได้บทสรุปในทำนองว่าเป็นยอดหนี้ที่เหมาะสมและสามารถรับได้ทุกฝ่ายมิใช่ยอดหนี้สูงเกินความเป็นจริง และเมื่อเจรจาสำเร็จแล้วก็ควรทำเอกสารบันทึกข้อตกลงว่าได้มีการเจรจากันและยุติยอดหนี้เดิมไม่ให้มีผลผูกพันกันต่อไปมิเช่นนั้นหากท่านจ่ายไปกลับกลายเป็นชำระหนี้เดิมที่สูงอยู่แล้วและนั่นคือสิ่งที่ต้องพิจารณา  ทางปฏิบัติการก่อนคดีจะมีเจ้าหน้าทางด้านกฏหมายมีหนังสือทวงถามก่อน ส่วนการบังคับคดียึดทรัพย์หรือการอายัดเงินเดือนได้จะต้องผ่านกระบวนการฟ้องร้องดำเนินคดีก่อนว่าจำเลยต้องรับผิดเพียงไรจึงจะทำการบังคับคดีได้ต่อไป  และเจ้าหนี้ต้องฟ้องคดีภายในกำหนดอายุความสองปีด้วย