ถูกโจทก์ฟ้องคดีต่อศาลแต่ถูกปิดปากไม่อาจต่อสู้คดีได้และต้องถูกศาลพิพากษาให้รับผิดชำระหนี้จำนวนมาก  บทความเรื่องนี้เขียนจากเรื่องจริงครับเนื่องจากมีผู้โทรศัพท์มาสอบถามปัญหาคดีต่างๆ แต่โทรมาช้าไปหน่อยจำนวนหลายรายมีรายหนึ่งอ้างว่าถูกต้องผิดสัญญากู้ที่มีการส่งมอบเงินกู้ให้นิดหน่อยจึงนำไปคืนแต่ไม่ได้นำสัญญากู้คืนด้วย และไม่ทราบว่าต้องยื่นคำให้การต่อสู้คดีภายใน 15 วัน จนเลยเวลายื่นคำให้การ และศาลก็ต้องพิจารณาพยานหลักฐานจากสัญญากู้ของโจทก์เพียงฝ่ายเดียว กล่าวคือ เงินกู้ก็ไม่ได้ ต่อสู้คดีก็ไม่ได้ และต้องถูกพิพากษาว่าเป็นหนี้หลายแสนบาทอีกด้วย  หากจะแก้ไขปัญหาก็ต้องให้ทนายความแก้ไขปัญหาให้โดยให้ทนายความยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นคำให้การและจัดทำคำให้การต่อสู้คดีไปด้วยอ้างว่าไม่เคยได้รับหมายตอนฟ้องเพิ่งมาทราบภายหลังก็เลยยื่นคำให้การไม่ทัน ซึ่งศาลต้องถามทนายโจทก์ว่าจะค้านหรือไม่ ซึ่งหากค้านก็ต้องทำการไต่สวนว่าจำเลยจงใจขาดนัดหรือไม่ หากไม่เคยย้ายที่อยู่ใหม่หรือศาลไม่เชื่อก็จะสั่งยกคำร้องทำให้จำเลยยื่นคำให้การไม่ได้ด้วย และต้องถูกพิพากษาให้รับผิดต่อไป หากไม่จ่ายก็ต้องถูกยึดอายัดทรัพย์สินชำระหนี้ต่อไปทั้งที่ไม่ได้เป็นหนี้ นี่คือโลกของความเป็นจริงจากการนิ่งนอนใจไม่ใส่ใจที่อ่านเอกสารหรือปรึกษานักกฎหมายในการดำเนินคดี ส่วนศาลเองก็ต้องพิจารณาคดีไปตามพยานเอกสารที่ปรากฎของโจทก์เพียงฝ่ายเดียว เพราะฉะนั้นเมื่อได้รับหมายศาลท่านต้องอ่านหมายศาลให้ดีว่าต้องทำคำให้การยื่นต่อศาลภายในกำหนดเวลาใด ซึ่งแต่ละประเภทคดีจะมีกำหนดระยะเวลาที่แตกต่างกันไป แต่หากไม่ยื่นคำให้การเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ท่านก็จะถูกศาลพิพากษาให้ชำระหนี้อย่างแน่นอน By www.siaminterlegal.com